1.1 ยกประเด็นที่ไม่พึงพอใจ

คงไม่มีบ้านหลังไหน ที่จะทำให้ใครถูกใจได้ทั้งหมด อาจมีบางส่วน บางโครงสร้าง ที่ทำให้ผู้ซื้อรายใหม่อย่างคุณ รู้สึกไม่พึงพอใจ จนอยากจะต่อเติมใหม่หรืออาจรื้อทุบทิ้ง ซึ่งคุณสามารถหยิบยกจุดนี้ มาเป็นเงื่อนไขในการขอลดราคาได้ โดยแจ้งว่า คุณจะมีค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านมือสองเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต

1.2 มองหาปัญหาของบ้าน

แน่นอนว่า สภาพของบ้านมือสอง คงจะไม่สมบูรณ์แบบเหมือนบ้านมือหนึ่ง จึงอาจมีข้อบกพร่องบางประการ ที่จะสามารถนำมาต่อรองได้ เช่น พื้นบ้านทรุด, ผนังบ้านร้าว, หลังคารั่ว โดยให้เหตุผลว่า คุณจะมีภาระค่าซ่อมแซมเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งจะช่วยให้คุณซื้อบ้านราคาถูกขึ้นกว่าเดิม

1.3 ระบุปัญหาสภาพแวดล้อม

ทำเลและราคาที่ดิน อาจเป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาพแวดล้อม, สภาพชุมชน, ลักษณะสังคม และไลฟ์สไตล์ของผู้คนได้ บ้านมือสองที่ทำเลดี, เดินทางสะดวก, อยู่ใกล้แหล่งงาน, สังคมสงบ, สิ่งรบกวนน้อย, มลพิษต่ำ ย่อมมีราคาสูงกว่า ส่วนบ้านที่มีราคาถูกกว่า ก็อาจมีปัญหาบางอย่างตามมา แต่นั่นก็อาจเป็นข้อดี เพราะคุณสามารถนำมาใช้ต่อรองได้นั่นเอง

1.4 ขอข้อมูลสินเชื่อจากธนาคาร

หลังจากซื้อบ้านมือสองแล้ว เจ้าของใหม่มักจะทำการรีโนเวตครั้งใหญ่ เพื่อให้รูปแบบของบ้านเข้ากับความต้องการ ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้ มีหลายธนาคารที่จะอนุมัติให้พร้อมกับสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน จึงควรหาข้อมูลจากธนาคารว่า แต่ละแห่งให้สินเชื่อซ่อมแซมบ้านประมาณเท่าไหร่ ถ้าอนุมัติน้อย จะได้นำมาอ้างในการเจรจาต่อรอง หรืออาจยื่นประเมินสินเชื่อก่อนซื้อบ้าน (Pre-Approve) ไปเลย เพื่อแสดงให้ผู้ขายเห็นว่า คุณมีศักยภาพในการซื้อจริง จะได้มอบส่วนลดให้โดยไม่ลังเล

1.5 รวบรวมข้อมูลราคา

หากคุณกำลังวางแผนซื้อบ้านราคาถูก สิ่งหนึ่งที่คุณจำเป็นต้องทำคือ การรวบรวมราคาบ้านในโครงการเดียวกัน และราคาบ้านในละแวกใกล้เคียง จะได้มีตัวเลขไว้เป็นเกณฑ์อ้างอิง เผื่อไว้ต่อรองในกรณีที่ผู้ขาย ตั้งราคาสูงกว่าราคาตลาดมากเกินไป จนดูไม่สมเหตุสมผล ซึ่งจะช่วยดึงตัวเลข ให้มีแนวโน้มมาทางคุณเพิ่มขึ้นด้วย

1.6 ยื่นราคาที่ยอมรับได้

ข้อมูลราคาที่รวบรวมได้นั้น จะช่วยให้คุณวางกรอบราคาได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ที่สำคัญคือ จะมีตัวเลขสุดท้ายที่เหมาะสม ที่จะใช้ยื่นให้กับผู้ขายโดยไม่เสียเปรียบ ซึ่งหากการเจรจาในครั้งนั้นยังไม่สำเร็จ อย่างน้อยผู้ขายก็จะทราบถึงราคา ของบ้านมือสองราคาถูกที่คุณตั้งไว้ใจใน ซึ่งอาจช่วยให้ประนีประนอมกันได้ในที่สุด

1.7 เสนอข้อแลกเปลี่ยน

หนึ่งในเทคนิคการพูดซื้อบ้านที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ คือการเสนอข้อแลกเปลี่ยนให้กับผู้ขาย แสดงให้เห็นว่า เป็นการสมประโยชน์ร่วมกันของสองฝ่าย ไม่ใช่ถูกกดดันให้ลดราคาเพียงอย่างเดียว โดยอาจเสนอว่า คุณจะเป็นคนรับผิดชอบค่าธรรมเนียม ของค่าใช้จ่ายในการซื้อบ้านมือสองให้ หรือพร้อมจ่ายเงินสด พร้อมวางมัดจำทันที แลกกับส่วนลด หรืออาจแลกกับเฟอร์นิเจอร์บางส่วนก็ได้

2.1 ประมูลบ้านออนไลน์

ปัจจุบันมีบางธนาคาร ที่เปิดให้คุณประมูลบ้านหลุดจำนอง ซึ่งเจ้าของเก่าผิดนัดชำระหนี้ (Non-Performing Asset, NPA) ผ่านทางออนไลน์แล้ว มีทั้งบ้านเอื้ออาทร, บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮาส์, ทาวน์โฮม โดยราคาอาจถูกลงกว่าเท่าตัว จองได้ทันทีผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาต่อรองกับใครเลย

2.2 ซื้อบ้านจากกรมบังคับคดี

อีกทางเลือกในการซื้อบ้านมือสองราคาถูก แบบไม่ต้องเสียเวลาเจรจา สำหรับคนที่ต้องการลงทุนอสังหาฯ และคนที่ต้องการซื้ออยู่เอง คือการคัดสรรบ้านที่ถูกบังคับคดี จากกรมบังคับคดี ซึ่งอาจมีราคาถูกกว่าท้องตลาดถึง 50% แต่ทั้งนี้ควรตรวจสอบความคืบหน้าทางคดีก่อนซื้อด้วย

2.3 ติดต่อผ่านนายหน้า

การซื้อบ้านมือสองผ่านนายหน้า ถือเป็นวิธียอดนิยม ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคนี้มากที่สุด เพราะจบเรื่องได้แบบ One Stop Service สะดวกรวดเร็ว จัดการให้ตั้งแต่ค้นหาบ้าน, คุยกับเจ้าของเดิม, ต่อรองราคา, ติดต่อธนาคาร ตลอดจนทำนิติกรรม คุณไม่ต้องทำอะไรเลย