การขอสินเชื่อบ้านกับธนาคาร หรือการกู้บ้าน ถือเป็นทางเลือกหลักสำหรับคนที่ต้องการมีบ้าน เพราะสามารถผ่อนชำระได้นานกว่า 30 ปี และยังเลือกยอดผ่อนบ้านในแต่ละเดือนได้ด้วย แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้น หลายคนก็ต้องฝันสลาย เพราะ กู้บ้านไม่ผ่าน ตั้งแต่แรก

1. เปิดสาเหตุ ที่ กู้บ้านไม่ผ่าน โดนธนาคารปฏิเสธ

1.1 รายรับไม่เพียงพอ

ไม่ว่าจะซื้อทาวน์โฮม, บ้านทาวน์เฮ้าส์, บ้านเดี่ยว, บ้านมือสอง หรือซื้อคอนโด จะได้วงเงินกู้สูงสุดประมาณ 70% ของรายรับสุทธิ ดังนั้นถ้าบ้าน 1,400,000 บาท ก็ควรมีรายรับขั้นต่ำ 20,000 บาท

1.2 รายรับไม่มั่นคง

เจ้าของธุรกิจส่วนตัวหรือฟรีแลนซ์ มีแนวโน้มที่จะขอสินเชื่อบ้านไม่ผ่าน มากกว่าพนักงานประจำหรือข้าราชการ เพราะถึงจะมีรายได้สูง แต่ถ้าเงินเข้าไม่สม่ำเสมอ ก็จะทำให้ธนาคารมองว่าไม่มั่นคง

1.3 มีเงินออมน้อย

ผู้ยื่นขอสินเชื่อที่ไม่มีเงินเก็บ หรือมีเงินเก็บน้อยกว่า 10% ของราคาบ้าน จะถูกประเมินว่า มีความเสี่ยงที่จะผ่อนบ้านไม่ไหว เพราะไม่มีเงินสำรอง หากเกิดเหตุฉุกเฉิน

1.4 ไม่มีประวัติการเงิน

บางคนไม่เคยผ่อนอะไรเลย ไม่มีประวัติในเครดิตบูโร เพราะต้องการให้ประวัติใสสะอาดก่อนซื้อบ้านหลังแรก แต่หารู้ไม่ว่า นั่นยิ่งทำให้ธนาคารอนุมัติยากขึ้น เนื่องจากไม่เคยเห็นพฤติกรรมการผ่อนชำระมาก่อนเลย

1.5 มีภาระหนี้จำนวนมาก

หากหนี้สินทั้งหมดเกินกว่า 40% ของรายได้ มีโอกาสที่จะกู้บ้านไม่ผ่านสูง เพราะมีแนวโน้มที่จะผ่อนไม่ไหว ยิ่งถ้าประวัติการชำระหนี้ไม่ดีอีก ก็มีโอกาสที่จะถูกปฏิเสธสูงมาก

1.6 ติดแบล็กลิสต์

กู้ซื้อบ้าน ยากไหม ? สำหรับคนที่ติดแบล็กลิสต์เครดิตบูโร เช่น มีหนี้ค้างชำระมาก, ชำระหนี้ล่าช้าเป็นประจำ, มีหนี้เกินรายได้ บอกเลยว่า กู้ผ่านยากมาก

1.6 ติดค้ำประกันคนอื่น

การค้ำประกันบ้านให้ผู้อื่น ถึงแม้จะไม่ต้องผ่อนชำระ ก็จะทำให้คุณมีภาระหนี้ก้อนนั้นติดในประวัติการเงิน ซึ่งมีโอกาสกู้ซื้อบ้านไม่ผ่านสูงขึ้น

1.7 เพิ่งย้ายที่ทำงาน

ผู้ยื่นกู้หลายคน มองข้ามประเด็นในข้อนี้ จึงขอสินเชื่อบ้านไม่ผ่าน เพราะถ้าเพิ่งย้ายงานมาไม่ถึง 1 ปี ธนาคารจะมองว่า มีความเสี่ยงที่จะถูกเลิกจ้างได้ง่าย

1.8 เอกสารไม่ครบ

จะซื้อบ้านใหม่จากโครงการดัง หรือบ้านมือสองราคาถูก สิ่งสำคัญคือเอกสารต้องครบ โดยเฉพาะเอกสารแสดงตัวตน และเอกสารการเงิน มิเช่นนั้นก็กู้ไม่ผ่านแน่นอน

2. เทคนิค การกู้ซื้อบ้านให้ผ่านฉลุย ตั้งแต่ครั้งแรก

2.1 คำนวณยอดผ่อนชำระ

ถ้าไม่อยากปวดหัวซ้ำ ๆ กับคำถามที่ว่า ขอสินเชื่อไม่ผ่านทำไงดี ? ก็ต้องเริ่มจากการประเมินว่า ตัวเองจะสามารถกู้ได้สูงสุดเท่าไหร่ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 70% ของรายได้

2.2 หารายได้หลายทาง

ถ้าอยากซื้อบ้าน แต่เงินเดือนน้อย หรือรายได้ไม่มั่นคง ก็ควรแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มรายรับ จากการสร้างรายได้หลายทาง เพื่อลดโอกาสที่จะกู้บ้านไม่ผ่าน

2.3 แบ่งเงินเก็บออม

สร้างวินัยทางการเงิน และเพิ่มความสามารถในการผ่อนชำระให้ธนาคารเห็น ด้วยการแบ่งเงินรายได้มาเก็บออม อย่างน้อย 10% ของรายได้ในแต่ละเดือน

2.4 เคลียร์หนี้สินคงค้าง

กู้ซื้อบ้าน ยากไหม ? ไม่ยากเลย ถ้าทยอยปิดหนี้คงค้างที่มีอยู่เรื่อย ๆ โดยเริ่มจากหนี้ก้อนเล็กก่อน ระหว่างนั้นก็หยุดสร้างหนี้ก้อนใหม่ด้วย จะได้เหลือรายรับสุทธิสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้

2.5 จัดระเบียบบัญชีธนาคาร

หากคุณกำลังวางแผนซื้อบ้าน แนะนำให้เคลียร์บัญชีธนาคารล่วงหน้า 1 – 2 ปี เพื่อช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือทางการเงิน โดยจัดให้มีเงินเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอ และชำระหนี้ให้เป็นระบบ ตรงเวลา

2.6 สร้างเครดิตให้น่าเชื่อถือ

ถ้าอยากแก้ปัญหา ขอสินเชื่อไม่ผ่านทำไงดี แนะนำให้เริ่มจากการแก้ไขประวัติเครดิตบูโร ด้วยการชำระหนี้คงค้าง โดยอาจสมัครบัตรเครดิตใหม่ แล้วเริ่มสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ด้วยการผ่อนชำระให้ตรงเวลา

2.7 หาผู้กู้ร่วม

หากรายได้ที่มีไม่เพียงพอและไม่แน่นอน ควรมองหาผู้กู้ร่วมซื้อบ้าน เพื่อช่วยขยายฐานรายได้ และช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ รับรองว่า มีโอกาสกู้ผ่านสูงขึ้นแน่นอน

2.8 เตรียมเอกสารให้ครบ

ถึงการเงินของคุณจะมีสภาพคล่องมากแค่ไหน ก็คงกู้ซื้อบ้านหลังแรก หรือหลังไหน ๆ ไม่ผ่าน ถ้าเอกสารไม่ครบ ดังนั้นอย่าพลาดในเรื่องที่คุณสามารถควบคุมได้ จะได้ไม่ต้องมานั่งคิดวนว่า กู้ซื้อบ้าน ยากไหม

3. ขอสินเชื่อบ้านไม่ผ่าน ? GOOROO HOME มีทางออก !

ขอสินเชื่อไม่ผ่านทำไงดี ? อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า การกู้บ้านแล้วไม่ผ่านมีหลายสาเหตุ บางคนอาจเกิดจากหลายเหตุผลร่วมกัน ทางที่ดีที่สุดที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ คือการตรงเข้ามาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ อย่างทีมงานของ GOOROO HOME ที่สั่งสมประสบการณ์ด้านนี้มากว่า 15 ปี ผ่านมาแล้วทุกสถานการณ์ แก้ไขมาแล้วทุกปัญหา จัดการให้ได้ตั้งแต่การเตรียมเอกสาร เจรจากับธนาคาร จนกว่าจะได้เข้าอยู่ ไม่ว่าจะกู้ไม่ผ่านด้วยเหตุผลอะไร เรามั่นใจว่า เราหาทางออกให้คุณได้เสมอ

4. สรุป

โดยส่วนใหญ่แล้ว สาเหตุของการ กู้บ้านไม่ผ่าน จะเกิดจากสถานภาพทางการเงิน ที่ดูไม่มั่นคงหรือขาดสภาพคล่อง ดังนั้นหากคุณสามารถจัดการให้สุขภาพการเงินดูดี ดูน่าเชื่อถือได้ โอกาสกู้ผ่านย่อมสูงขึ้นแน่นอน

บทความแนะนำ

แชร์ความรู้ กู้บ้านหลังที่ 2 ทำได้หรือไม่ ? และควรรู้ข้อกำหนดอะไรบ้าง ? บทความนี้มีคำตอบ